Happy Teaching, Happy Learning
‘ครูโซ่’ – ยอดหทัย รีศรีคำ อดีตครูจากโรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” เปลี่ยนความน่าเบื่อของวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยลีลาการสอนที่มีทั้งการใช้เพลงร็อกมาประกอบการเรียน หรือแม้กระทั่งใช้เพลง PPAP มาทวงการบ้านประจำเทอม
.
#แนวคิดเรื่องมองในสิ่งที่ดีที่มีอยู่
เป็นแนวคิดที่ผมเอามาใช้กับการสอนหนังสือ เพราะแทนที่เราจะเครียดว่า ห้องนี้มีเด็ก 50 คน แต่คนสอบตกไปแล้ว 20 คน ซึ่งธรรมชาติของวิชาคณิตฯ นั้นเด็กสอบไม่ผ่านเกินครึ่งห้องอยู่แล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะเครียดมาก ขนาดเด็กสอบตกแค่ 5 หรือ 10 คน ผมยังไม่ยอมเลย พอตอนนี้ผมเปลี่ยนมุมมองใหม่ เด็กสอบตก 20 คน แปลว่ามีเด็กสอบผ่าน 30 คน กำลังใจก็มีมากขึ้น เดี๋ยวครั้งหน้าเด็กสอบผ่าน 35 คน เราก็จะยิ่งมีกำลังใจที่ทำให้เราสอนเด็กให้เรียนดีขึ้นได้
.
#ผมยึดหลักที่ในหลวงรัชกาลที่9
พระองค์เคยตรัสไว้ว่า ถ้าครูยึดประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง มากกว่าจะคิดถึงประโยชน์ของนักเรียน แล้วประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร ผมจึงไม่สร้างผลงานให้ตัวเอง และย้ายไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ ทุกสองปี เพราะผมไม่ต้องการแข่งขันหรือเอาชนะใคร ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเด็กนักเรียน แค่นี้ก็เพียงพอต่อใจผมแล้ว
.
สำหรับผม ท่านไม่ใช่เทวดา ท่านคือคนคนหนึ่งที่ทำงานหนักมาก เป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเราต้องทำงานให้หนักได้เท่าเสี้ยวเล็กๆ ของท่าน ท่านเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อคนทั้งประเทศ และสิ่งที่ผมต้องทำคือ พยายามสร้างวิธีการสอนแบบนี้ และทำเป็นแบบอย่างให้คนทั้งประเทศได้เห็น เพราะตอนนี้มีครูอีกหลายโรงเรียนที่เริ่มการสอนคล้ายๆ กับที่ผมทำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเปลี่ยนมุมมองของการสอนหนังสือให้มีความสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น
.
#ผมอยากสร้างโรงเรียนคุณธรรมขึ้นมา
เพราะเป็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งใจไว้ ผมอยากปลูกจิตสำนึกในความรับผิดชอบและทัศนคติกับเด็ก เช่น ถ้าผมวางเงินไว้ 5 บาท แล้วเงินนั้นหายไป นั่นคือเด็กไม่มีคุณธรรม แต่ถ้าผมได้เงินคืนมา นั่นแสดงว่าเด็กมีคุณธรรม ตอนนี้ผมได้สร้างระบบของความเห็นอกเห็นใจกันในห้องเรียน ด้วยการทำกล่องขึ้นมาหนึ่งใบแล้วเอาเงินใส่ไว้ในนั้นสองร้อยบาท และเขียนไว้หน้ากล่องว่า ‘ไม่มีก็ยืมได้’ เผื่อใครไม่มีเงินกินข้าวก็มายืมเงินในกล่องนี้ไป ปรากฏว่าพอถึงตอนสิ้นเทอมเงินในกล่องเพิ่มมาเป็นสี่ร้อยบาท ซึ่งเวลาที่เอาเงินมาคืนเขาจะใส่เงินเพิ่มลงไป ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งผมเจอเด็กที่เอาเงินมาคืนโดยบังเอิญ เขายืมไป 35 บาท แต่เขาใส่เงินคืนลงไปในกล่อง 40 บาท ผมบอกให้เขามาเอาเงินทอน เขาบอกกลับมาว่า ‘ไม่เอาหรอก เพราะตอนที่หนูไม่มีเงิน หนูยืมใครไม่ได้เลย แต่กล่องนี้มีให้หนูยืม ถ้าหนูใส่เงินลงไปเพิ่มอีกห้าบาท เพื่อนคนอื่นเขาก็จะมีเงินให้ยืมไปใช้เพิ่มขึ้นอีกห้าบาทด้วย’ ซึ่งฟังแล้วผมมีความสุขมาก
ปัจจุบันเค้าได้ดินก้าวต่อในความฝันที่จะสร้างโรเงรียนแห่งคุณธรรมของเค้าขึ้นมาตามอุดมการณ์และเส้นทางในการเดินตามรอยเท้าของพ่อ
.
ติดตามความเคลื่อนไหว ครูโซ่ ได้ที่ www.krusocenter.com ศูนย์การเรียนรู้แห่งความสุข
และ Facebook : ครูโซ่ ยอดหทัย (Kruso Yodhathai)
———————————-
อ่านย้อนหลังได้ทางแอพพลิเคชั่น a day BULLETIN / แอพพลิเคชั่น Ookbee หรือทาง issuu.com/adaybulletin/docs/adb456
ติดตามกิจกรรมของเครือข่าย #สานต่อที่พ่อทำ
ได้ที่ Facebook : สานต่อที่พ่อทำ หรือ www.fulfillingfatherslegacy.com
